เรื่องที่เขียนด้วยสำนวนและลีลาอย่างนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการใช้กล่องไฟถ่ายภาพแน่ๆและอีกอย่างหนึ่งก็คงจะเป็นการประกอบกล่องไฟด้วย

คุณราเชนทร์ขึ้นเรื่องที่เขียนด้วยสำนวนและลีลาอย่างนี้๙ นาฬิกา ๓o นาทีของวันเสาร์ที่ ๑ กรกฎาคม
๒๔๙๓วิญญาณของบุคคลผู้หนึ่งลอยออกจากร่างภายในห้องแคบๆของตึกวชิรพยาบาลท่ามกลางความตื้นตันเศร้าสลดของมิตรสหาย ท่ามกลางความวิปโยค ราไห้ของบุตรที่รักและเมียขวัญเขาล่วงลับไปแล้ว
เพชรนํ้าหนึ่งของวงการศิลปีนแห่งโลกละครเมือง กล่องไฟถ่ายรูป ไทยยุคปัจจุบัน ต่อจากนี้ไปนักดูละครไมีมีโอกาสได้ชื่นชมหรรษาวับบทบาทบนเวทีของเขาอีกแล้วชื่ออันบันลือของเขาเท่านั้นที่จะสลักความทรงจำของเราอยู่มิลืมเลือนจอก ดอกจันทร์ ตายเลืยแล้วผมนำเอาสำนวนการเขียนสารคดีเชิงข่าวของคุณราเชนทร์มาทั้งหมดด้วยคิดว่าพอจะมีส่วนพิจารณาได้ถึงรูปแบบการเขียนของนักข่าวนักเขียนเมื่อห้าสิบห้าปีที่ผ่านมาแล้ว จอก ดอกจันทร์เป็นศิลปินผู้ยิ่งใหญ่จรงๆ ด้วยบทบาทบนเวทีของเขายิ่งไปกว่านั้นเขาคือผู้ริเริ่มจัดตั้งการแสดงตลกภายใต้ชื่อคณะว่า ลูกไทยหากจะกล่าวว่า ตรงนั้นคือจุดเริ่มต้นของวงการตลกเมืองไทยก็ไม่ผิด ล้อต๊อกสมพงษ์ หรือใครต่อใครที่เป็นดาราตลกต่อมานั้นคือผู้ร่วมอยู่ในคณะลูกไทย ต่อมาเมื่อจอกดอกจันทร์ ตายแล้ว ลูกไทย ก็เหมือนแพแตกชีวิตของบุคคลผู้นี้น่าสนใจไม่น้อยเลย กล่องไฟสตูดิโอ คุณราเชนทร์ได้สัมภาษณ์และนำเอาชีวิตจริงมาตีแผ่ถึงความเป็นศิลปินของเขาไว้อย่างละเอียด ซื่อเดิมของจอกคือพะยอม สาริกบุตร เป็นบุตรของร.ต.ท.ยันต์ สาริกบุตร คุณปูคือพระยาพิศาลสาริกบุตรพะยอมอายุย่างเข้า ๕ ขวบ มารดาก็ตายจึงอยู่ในความดูแลของแม่เลี้ยงในเวลาต่อมาคือนางองุ่น สาริกบุตรผู้ให้การดูแลอย่างดี พะยอมเรียนจบมัธยมปีที่ ๒ที่ร.ร.มัธยมบวรนิเวศเด็กชายพะยอมมักหนีโรงเรียนไปขลุกกับละครรำและโขนเสมอตามแต่โอกาสจะอำนวยให้ พออายุ๑๑-๑๒ขวบก็เข้าไปหัดละครรำกับคณะละครฝ่ายในกังของคุณท้าววนิดาพิจาริณีซึ่งเมื่อถึงแก่กรรมก็หันไปสมัครอยู่กับคณะละครแม่เลื่อนซึ่งเป็นละครร้องและผู้หญิงจะแสดงเป็นพระเอก-พระรองละครร้องยุคนั้นมักจะมี ตัวตามพระ และตัวตามนาง บรรดาตัวตามนีมักจะแสดงตลกและเป็นทีระบายอารมณ์ กล่องไฟฉากขาว
ทั้งของพระเอกและ นางเอก พะยอมยังไม่มีชื่อเพราะเป็น ตัวตามกับช่วยบอกบทอยู่ข้างหลังเวที ระหว่างนี้ก็ไปหัดตีกลอง แจ๊ชแบนด์ครั้นเมื่อจะต้องเล่นบทตลกอย่างเอาจรงเอาจังร่วมกับแจ๋ว ดอกจิกเฉลิม บุณยเกียรติ และจิ๋ว ดอกจอก (ไสว ประเสริฐ) เขาก็เลยใช้ชื่อจอกดอกจันทร์ ดูสอดคล้องกันนั่นคือที่มาของชื่อในการแสดงเป็นตลก ตามในละครร้องยุคนั้นละครร้องคณะแม่เลื่อนมักจะเร่ไปเปิดแสดงต่างจังหวัด ผมจำได้ดีว่า แม่เลื่อนมาเปิดแสดงเกือบเป็นประจำเพราะมี แม่ยก เป็นผู้หญิงชอบลีลาการแสดงของแม่เลื่อนซึ่งเวลาแต่งตัวเป็นพระเอกแล้วทั้งเท่ทั้งหล่อเมื่อออกเร่ต่างจังหวัดจอกก็เริ่มเหล่ผู้หญิงในคณะเดียวกันนี่แหละซื่อ อัปษร กล่องถ่ายภาพ  เพราะร่วมแสดงบทตลกด้วยเสมออัปษร ผู้นี้ก็คือ จันตรี สาริกบุตร นั่นเองเมื่ออยู่กินกันและเดินทางไปด้วยกันมีบุตรสาวด้วยกันเป็นคนโตชื่อ จินตนาหลังจากนั้นไม่นานจอกก็ตั้งคณะตลกขึ้นมาโดยจันตรีเป็นคนตั้งชื่อคณะว่า ลูกไทยจอกรวบรวมเอาตัวตลกตามพระตามนางมาหลายคนร่วมคณะด้วย มี เสน่ห์โกมารชุน สัมพันธ์ อุมาทูลและล้อต๊อก เปิดการแสดงโดยใช้ชื่อว่า ละครย่อยของคณะลูกไทยเปิดแสดงเรื่องแรกคือเรื่อง เมื่อผู้ชายมีท้องการเปิดละครย่อยที่ให้ความครื้นเครงทำให้เป็นที่นิยมของผู้คนจอกจะเป็นคนแต่งเรื่องและเขียนบทเองเมื่อ ลูกไทย เปรื้ยงขึ้นมามีการแสดงต่อไปอีกจึงไปดึงเอาจอก ดอกจันทร์ในชุดขุนทหาร คชกาย เรื่อง ขุนเหล็ก ละครเวทีเรื่องสุดท้ายทีล้มตึงบนเวทีระหว่างแสดง และลาโลกในอีกสองวันต่อมาตามพระ สมพงษ์ พงษ์มิตรอบบุญติดจุมพลปัทมินทร์ สาหัสบุญหลง และสมบุญ แว่นตาโต เข้ามาร่วมด้วยความโด่งดังของ
กล่องไฟถ่ายภาพสินค้า