วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559


พลตำรวจมีนายตำรวจระดับร้อยตำรวจเอกกับสิบตำรวจตรีถูกควบคุมตัวไปสอบถามเรื่องใช้กล่องไฟสตูดิโอยังไงถ่ายแล้วให้ภาพออกมาดี


พลตำรวจมีนายตำรวจระดับร้อยตำรวจเอกกับสิบตำรวจตรีถูกควบคุมตัวดำเนินคดี เพียงแต่ว่า มือสังหาร
ยังหลบลี้หนีหายการไล่ล่าของตำรวจจนกระทั่งการไปรับมอบตัว มือปีนเป็นข่าวขึ้นมาจากการแถลง
ของนายตำรวจผู้พิชิตติดต่อจนลุล่วงคือพ.ต.ท.ถนอม หงษ์ทอง ผู้โด่งดังจากคดี เก๋งดำ บุรุษผู้พิฆาตเปิดตัวก่อนว่าคือ พลตำรวจสนั่นใจเผื่อแผ่ หนีเตลิดเปิดเปิงไล่ล่าไม่เป็นผลจน ถนอมได้รับการติดต่อหลังการมอบหมายของอธิบดีกรมตำรวจให้เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบคดีนี้โดยให้  กล่องไฟสตูดิโอฉากขาว
พ.ต.อ.พุฒ บูรณสมภพ เข้ามาช่วยอีกคนหนึ่งพ.ต.อ.พุฒได้ดึงเอา ร.ต.อ.ประชา พูนวิวัฒน์นายตำรวจมือปราบและยังเคยเป็นผู้บังคับบัญชา พลฯสนั่นมาก่อนเก๋าด้วยทั้งหมดได้เดินทางไปยังเชียงแสนแล้วหาเรีอเดินทางต่อเข้าไปในดินแดนลาวอิสระ ในตำบลปางอ้อร.ต.อ.ประชาเดินไปยังจุดนัดพบ ส่วนคนอื่นอยู่ในจุดพร้อมที่จะเข้าช่วยเพราะร.ต.อ.ประชาไม่มีอาวุธติดตัวแต่ความจริงมี เพียงแต่ซุกช่อนไว้อย่างมิดชิดเรื่องอย่างนี้ ร.ต.อ.ประชาระวังและรอบคอบมากพลฯสนั่นออกมาที่จุดนัดพบพร้อมด้วยปีนยูเอสเหน็บเอวมีเสียง กล่องไฟถ่ายรูป ร้องทัก สนั่น จำอั๊วได้ไหมสนั่นเลื่อนมือไปที่ปีนทันที แต่เมื่อเพ่งมองชายที่ยืนอยู่ไม่ไกลด้วยความลังเลเมื่อจำได้ว่าบุรุษผู้นั้นเป็นใคร สนั่นเปลี่ยนท่าทีพร้อมกับตะโกนออกมา อย่ายิงผมนะร.ต.อ.ประชาก้าวเข้าไปหา สนั่นยังจับตามองเมื่อประชาเข้าไปหยุดตรงหน้า สนั่นจึงทรุดตัวลงกอดขาแล้วร้องไห้เมื่อประคองให้ลุกขึ้นมาต่างยืนจ้องหน้ากันสนั่นก็เกิดสำลักและไอออกมาเป็นเลือด จึงรู้ว่า
ป่วยพากันลงเรือกลับเข้ามาในแดนไทยแล้วเดินทางต่อเข้ากรุงเทพฯการดำเนินคดี เก่งดำ ไม่ยุ่งยาก
เพราะจำเลยสำคัญถูกจัดให้เป็นจำเลยที่ ๓ รับสารภาพถึงการลวงนายสุจินต์ พุ่มชูศรี นั่ง เก๋งดำ ไป
ถึงย่านรังสิตก็จอด รถที่ผ่านไปผ่านมาจะเห็นเก๋งดำ จอดอยู่ตรงจุดนั้นเป็นเวลานาน กล่องไฟฉากขาว
จะมีใครได้ยินเสียงปีนหรือไม่ ไม่รู้แต่เมื่อรถ เก๋งดำ เคลื่อนออกจากจุดจอดร่างไร้วิญญาณของนายสุจินต์นอนอยู่ตรงขอบถนนนั่นการทำสำนวนคดี เก๋งดำ เสร็จสิ้นในเวลารวดเร็วจนศาลอาญาอ่านคำพิพากษาให้ปล่อยจำเลยที่ ๑ คือ ร.ต.อ.อนุรักษ์เสริมสุวรรณ ล่วนจำเลยที่ ๒ คือส.ต.ต.สมพงษ์กรพาณิชย์ ให้จำคุก ๒๐ ปี ล้วน พลฯ สนั่นที่แยกสำนวนไปนั้นผลสุดท้ายศาลตัดสินจำคุกตลอดชวิตคดีอาชญากรรมจะขึ้นต้นด้วยความตื่นเต้นโหดเหี้ยม หรือทารุณขนาดไหน บทสุดท้ายถ้าไม่ติดคุกก็ถูกประหารชีวิตการรับสารภาพของจำเลยทำให้ศาลมีความปรานีลดหย่อนจากหนักเป็นเบา อาชญากรรมไม่เคยให้คุณแก่ใครทั้งสิ้น แต่บ้านไหนเมืองไหนต่างก็หนีไม่พ้นผู้คนที่ประกอบอาชญากรรมเคยมีคนกล่าวไว้ว่าความเจริญของบ้านเมืองใด มีตึกอาคารสูงขนาดไหนอาชญากรรมจะเป็นเงาสูงเทียบเท่าทีเดียว คงจะจริงเพราะเมืองไทยหรือความเป็นเมืองสวรรค์ของกรุงเทพฯ ได้กลายเป็นแหล่งก่ออาชญากรรมจนผู้คนหวาดผวาไปตามๆ กล่องไฟ light box กับการขอพระราชทานยศ จอมพล ให้แก่พลเอกสฤษด ธนะรัซต์และได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯลงมาให้ได้รับพระราชทานยศอันยังความปลื้มปีติแก่ จอมพลสฤษดี้ ธนะรัชต์อย่างมากตั้งแต่เริ่มศักราชใหม่ ๒๔๙๙ซึ่งจอมพลสฤษดิ้ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีอย่างยิ่งขณะเดียวกัน โดย หมากการเมือง แล้วถือว่าเป็นหมากที่ประคองหรือถนอมนํ้าใจจอมพลสฤษดิ้เอาไว้นั่นเองกองทัพบกจึงได้มีงาน ราตรีสโมสร ขึ้น ณโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าที่ครั้งนั้นตั้งอยู่ที่ถนนราชดำเนินตรงข้ามสนามมวยราชดำเนิน กล่องไฟถ่ายภาพสินค้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น