วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2559


เก็บมาเล่าไว้ด้วยพาดหัวข่าวนั้นมีประเด็นดังนี้ทหารอ้างว่าการใช้กล่องไฟถ่ายรูปนั้นมันดีจริงๆได้ตามที่เราต้องการ

พาดหัวข่าวทีเดียวน่าจะเก็บมาเล่าไว้ด้วยพาดหัวข่าวนั้นมีประเด็นดังนี้ทหารอ้างพงศาวดารชื้อ มธก
ลีดหรือท่อนโปรยข่าวมีใจความชัดเจนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมืองซึ่งทางราชการทหารยืมไปใช้ตั้งแต่วันเกิดกบฏ ๒๙ มิถุนายนเป็นต้นมา กระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่ล่งคืนนั้นบัดนี้เหตุการณ์ได้แปรพักตร์จากความหวังของนักศึกษาเสียแล้วเนื่องจากทางราชการทหารไม่ยอมคืนโดยอ้างว่าจำเป็นจะต้องใช้สถานที่อีกต่อไปและดำริจะชื้อสถานที่เสียทีเดียวเพื่อป้องกันความยุ่งยากจะเห็นว่า กล่องไฟสตูดิโอ
 เมื่อเกิดเหตุรุนแรงขึ้นทหารบกได้เคลื่อนกำลังเข้ามาใช้สถานที่ของ มธก. เป็นที่ตั้งต่อเกับฝ่ายทหารเรือแล้วนำเอาเขตพระราชรานมาอ้างว่า พระบรมมหาราชวัง นั้นเป็นสถานที่คักดิ้สิทธิ้ แต่มีทหารร.พัน ๑ รักษาพระองค์รักษาอยู่เพียงด้านใต้ด้านเดียวจำเป็นจะต้องใช้ มธก.เป็นปราการปัองกันทางด้านเหนือไว้อีกด้านหนึ่งและยิ่งไปกว่านั้น มธก.ยังเป็นสถานที่สำคัญอันจะไว้ใช้ต่อต้านข้าศึกซึงอาจลู่โจมมาตามเต้นทางรถไฟนั่นคือ กล่องไฟฉากขาว ข้ออ้างที่ฟังทะแม่งๆ ชอบกลคงไม่ต้องบอกหรอกว่านักศึกษาต้องมีการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้คืนสถานที่ให้นักศึกษาซึ่งร่วมกันลงชื่อจำนวนมากแต้วมอบให้ประธานนักศึกษาในขณะนั้นคือ คุณประจวบ อัมพะเศวต เป็นผู้รับเรื่องไปดำเนินการเรื่องอย่างนี้ไปถามใคร เขาก็คงไม่เห็นด้วยกับทหารบกที่เข้าไปใช้สถานที่ของเขาแล้วจะโมเม อุบอิบเอาไว้ซ่อนความต้องการแท้จริงเอาไว้ในใจแต่เรื่องพรรค์นี้อ้าปากก็มองทะลุผมขออนุญาตเก็บความเรื่องนี้ให้ต่อเนื่องไปจนกระทั่งจบเรื่อง ซึ่งแม้จะเดาได้ว่าจะจบแบบไหน light box mini แต่ก็อยากให้เห็นว่าเหตุการณ์อย่างนี้ได้ดำเนินไปอย่างใดหลังจากวันนั้น (๒ ต.ค. ๒๔๙๔) แล้วการคัดค้านของนักศึกษาก็มีนํ้าหนักขึ้นจนถึงขั้นพลเอกผิน ซุณหะวัณ ต้องปรึกษาหารือกับจอมพลป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี วันเดียวกับที่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้นนักศึกษาเกือบสองพันคนได้เดินขบวนไปที่สภาฯการประชุมวันนั้นมีกระทุ้ถามของ ส.ส. เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยปรากฏว่าคำตอบในสภาไม่เป็นที่พอใจของนักศึกษานักศึกษาจึงตะโกนถามหานายกรัฐมนตรีท่ามกลางบรรยากาศที่ค่อนข้างตึงเครียด แต่จอมพลป.ก็ลงมาจากสภาฯและยืนอยู่บนบันไดนักศึกษาจึงรุกถามเพื่อให้ได้คำตอบ จอมพล ป.จึงต้องตอบผมจะคืนให้แน่นอนแต่หลังจากการสวนสนามของทหารที่ไปเกาหลีได้ผ่านไปแล้ว light box แถมทิ้งท้ายให้บรรยากาศดีขึ้นเลียงที่ใครเขาว่าจะชื้อ มธก. จะล้ม มธก. อย่าไปเชื่อเขาทุกคนในที่นี้ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหน ลูกหลานด้วยกันทั้งนั้นเท่านั้นก็มีเลียงไชโยสามราและเสียงตะโกนจอมพลจงเจรณดังกึกก้องขึ้นทีเดียวเป็นอันว่า เรื่องนี้จบแบบแฮปปีเอนดิ้งเพราะหลังจากการสวนสนามทหารไทยจากเกาหลีผ่านไปแล้วทหารบกก็มีการโยกย้ายหรือเรียกว่ายกกำลังกลับคืนที่ตั้งเดิมการสวนสนามซึ่งไม่เกี่ยวกับการเรียกร้องเอาสถานที่คืนมีสิ่งที่ทำให้ผู้ที่ได้ชมการสวนสนามของสามเหล่าทัพต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางที่ไม่ดี คือรัฐบาลมีความหวาดผวาไปเลียจนระวังตัวไปหมดทุกก้าวย่าง ทหารบกอากาศเดินสวนสนามอกผายไหล่ผึ่ง แบกอาวุธปีนตะลิดติดซึ่งแต่ทหารเรือเดินตบเท้าไปตามจังหวะไม่มีปีนแบกกับใครเขาแล้วอย่างนี้จะไม่เรียกว่าปอดกระเส่าแล้วจะไปเรียกอะไร ในเมื่อมีการแต่งตั้งแม่ทัพเรือคนใหม่ คือพล.ร.ท.หลวงพลสินธวานัตก์เรียบร้อยไปแล้ว เพียงแต่ว่าเมื่อมีการแต่งตั้งเสนาธิการ ทร.ขึ้นใหม่นั้น จอมพลป. ถืออำนาจแต่งตั้ง พล.ร.ต.สุนทร สุนทรนาวินเพราะจอมพล ป. เป็น กล่องไฟ light box รมว.กลาโหมด้วยเมื่อถือเอาอำนาจเป็นที่ตั้งใครที่นั่งบังคับบัญชาย่อมเห็นว่าไม่เหมาะควร ดังนั้นพล.ร.ท.หลวงพลสินธวานัตก์ก็ตัดสินใจยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง ผบ.ทร.เพราะการแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญเช่นนี้ควรจะได้มีการหารือกัน เท่ากับไม่ไว้วางใจใน ผบ.ทร.ซึ่งจะถูกมองว่าไม่มีเสรีภาพในการบริหารราชการในกองทัพเรือผมขืนอยู่ต่อไปก็ขาดความเคารพนับถือจากพวกทหารเรือ เพราะเป็นผู้บังคับบัญชาแล้วทำอะไรไม่ได้เขาให้ผมเป็นหุ่นเชิด นอกจากนี้ยังมีความกดดันอีกหลายอย่าง เช่น light box ราคา การปรับปรุงกองทัพเรือ ผมจะทำอะไรไม่ได้เลย ขอกองสัญญาณเขาก็ไม่ให้ขอสวนอนันต์เขาก็ไม่ให้ ผมไม่ได้ลาออกด้วยเรื่องส่วนตัวหลวงพลสินธวานัตก์พูดกับนักข่าวอย่างนี้จะว่าไปแล้วแม้แต่หน่วยนาวิกโยธินก็ถูกสั่งยุบ ทั้งๆ ที่เป็นหน่วย
กล่องไฟถ่ายรูปสินค้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น